แรงตึงผิว=เรือน้อยลอยละล่อง
หลายๆ คน คงจะเคยได้ยินคำว่าแรงลอยตัว แรงตึงผิว ความตึงผิว มันต่างกันยังไงแล้วจะให้ตอบว่าความหมายของแต่ละคำมีความหมายว่าอะไรนั้นก็คงจะยากหรือไม่ก็สับสนหรือไม่ก็ลืม
เพราะว่าเรียนมานานแล้ว นั้นแสดงให้เห็นว่าเราไม่มีความเข้าใจในเรื่องที่เรียน
อย่างแรกเรามาดูความหมายของทั้งสามคำกันก่อน
แรงลอยตัว
จะมีขนาดเท่ากับน้ำหนักของของเหลวที่มีปริมาตรเท่ากับปริมาตรของวัตถุส่วนที่จมอยู่ในของเหลว
แรงตึงผิว
คือ แรงที่เกิดขึ้นบริเวณที่ผิวของของเหลวสัมผัสกับของเหลวอื่นหรือกับผิวของแข็งโดยมีพลังงานเพียงพอต่อกายึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุล
ซึ่งมีขนาดสัมพันธ์กับแรงยึดติดและแรงเชื่อมแน่นทำให้เกิดเป็นลักษณะคล้ายๆ
กับแผ่นบางๆ ที่สามารถต้านแรงดึงได้เล็กน้อย
มีทิศขนานกับผิวของเหลวและตั้งฉากกับเส้นขอบที่ของเหลวสัมผัส เมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้นความตึงผิวของเหลวจะมีค่าลดลง
ความตึงผิว คือ แรงต่อความยาวของผิวสัมผัส (ความพยายามในการยึดผิวของของเหลว)
แค่สามคำนี่ก็ไม่เข้าใจ
แยกความหมายไม่ออกแถมยังจำไม่ได้อีก ดังนั้นเราจึงจะทำสื่อการเรียนรู้
ที่จะช่วยเร้าความสนใจของผู้เรียน เพราะผู้เรียนสามารถใช้ประสาทสัมผัสได้ด้วยตา หู
และการเคลื่อนไหวจับต้องได้แทนการฟังหรือดูเพียงอย่างเดียวเพื่อพัฒนาการเรียนรู้และช่วยความทรงจำอย่างถาวร
โดยสื่อการเรียนรู้ในเรื่องของแรงตึงผิว
เราจะใช้สื่อที่มีชื่อว่า เรื่อน้อยลอยละล่อง
รูปแบบของสื่อจะมีชุดการสอน 2 ชุด และแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น
6 กลุ่ม
ชุดการสอนที่ 1
จัดหาวัสดุที่มีความหนาแน่นมากกว่าน้ำ
6 ชนิด คือ เข็มกลัด ลวดเสียบกระดาษขนาดเล็ก
ลวดเสียบกระดาษขนาดใหญ่ เหรียญ ตะปู เข็ม
ให้นักเรียนสังเกตชนิดของวัสดุว่าจะจมน้ำหรือลอยน้ำ เป็นการกระตุ้นให้นักเรียนเกิดความสงสัย
เกิดความอยากรู้ และอภิปรายการทดลองได้ว่าแรงตึงผิวขึ้นกับความยาวของวัสดุที่สัมผัสกับน้ำ
ชุดการสอนที่ 2
จัดทำชุดการสอน
เรือน้อยลอยละล่อง ซึ่งในชุดการสอนจะประกอบไปด้วย เรือฟิวเจอร์บอร์ด จำนวน 12 ลำ ซันไลน์ชนิดก้อนจำนวน 1 กล่อง ไม้สำหรับทาซันไลน์
6 อัน ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มมาแข่งขันกันว่าเรือของใครจะไปไหวกว่า
ซึ่งนักเรียนจะพยายามหาวิธีที่จะให้เรือไปได้ไวที่สุด
นักเรียนก็จะสามารถเข้าใจได้จากสิ่งที่ตนเองทดลอง
ข้าพเจ้าคิดว่าสื่อที่ดีนั้นจะต้องให้ผู้เรียนสามารถลงมือปฏิบัติด้วยตนเองได้
, เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแก้ไขปัญหาได้อย่างกว้างขวาง
และให้ผู้เรียนร่วมเรียนรู้ หรือทำงานเป็นกลุ่ม 
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น